SIRI ออกหุ้นกู้ 2 รุ่น ดอกเบี้ย 4.00-4.55% คาดเสนอขายต้นมิ.ย.

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ อายุ 2 ปี 6 เดือน และอายุ 4 ปี ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป (ผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน) ผ่าน 10 สถาบันการเงิน กำหนดจองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ยระหว่าง 4.00-4.55% ต่อปี อันดับความน่าเชื่อถือบริษัทและหุ้นกู้ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นระดับ Investment Gradeคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ หลังจากประสบความสำเร็จในการขายหุ้นกู้รุ่นก่อนหน้ามาโดยตลอด สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุนรายย่อย รวมทั้งความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาฯ จากการมองตลาดเร็วและพร้อมปรับตัวรองรับทุกสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา

หุ้นกู้ที่จะเสนอขายครั้งนี้เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป สำหรับหุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยระหว่าง 4.00-4.10% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง 4.45-4.55% ต่อปี

เคาะแล้ว หุ้นกู้ “แสนสิริ” ดอกเบี้ย 4.20-4.55% จ่ายทุก 3 เดือน เริ่มจองซื้อ 25 ม.ค.

“SIRI” จับมือ “ไนท์สบริดจ์” ตัวแทนขายคอนโดฯ เจาะตลาดต่างชาติ รับดีมานด์พุ่ง

จำหน่ายผ่าน 10 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) หุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้

สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบในภายหลัง

หุ้นกู้และบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่ (Stable)” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 และคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 1–2 และ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2566 นี้ ด้วยเงินจองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ที่จับต้องง่าย และเป็นแบรนด์ “ที่ทุกคนเข้าถึงได้” ซึ่งไม่ใช่เพียงเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์เท่านั้น ยังมองถึงความสำคัญในด้านการลงทุนที่ต้องทั่วถึงและเท่าเทียมกัน

สำหรับผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2566 แสนสิริมี รายได้รวมอยู่ที่ 8,505 ล้านบาท โตขึ้น 63% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากรายได้จากการขายโครงการที่โดดเด่นในทุกกลุ่มที่อยู่อาศัย นำด้วยรายได้จากการขายคอนโดมิเนียม ที่ในไตรมาสนี้เติบโตสูงสุดถึง 217% หรือโกยรายได้ 2,717 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการขายโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและมิกซ์ โปรดักส์ โดยแชมป์รายได้จากโครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ โครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา ส่วนรายได้จากการขายโครงการทาวน์โฮม เติบโตขึ้นถึง 104% โดยเฉพาะความสำเร็จในลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนท์แนวคิดใหม่ “เดมี สาธุ 49” เป็นต้น นอกจากรายได้ที่โดดเด่นในทุกโปรดักส์แล้ว กำไรขั้นต้นจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยยังคงสูงขึ้นเช่นเดียวกัน

ประกอบกับในไตรมาสนี้ แสนสิริมีการบันทึกกำไรจากการขายกิจการโรงเรียนสาธิตพัฒนา และการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วม ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาสแรกของปี 2566 เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยแสนสิริมีกำไรสุทธิ 1,582 ล้านบาท เติบโตโดดเด่นขึ้นถึง 423% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรสุทธิสูงถึง 18.6% ของรายได้รวม ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากจากอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 5.8 ของรายได้รวมในไตรมาสแรกของปี 2565

 SIRI ออกหุ้นกู้ 2 รุ่น ดอกเบี้ย 4.00-4.55% คาดเสนอขายต้นมิ.ย.

By admin

Related Post